Tag: ข่าวกีฬาที่น่าสนใจ

พ่อ ก้องภพ อยากให้ลูกชาย(เมสซี่ เจ) เพิ่มสิ่งนี้ในสนาม

พ่อ ก้องภพ อยากให้ลูกชาย(เมสซี่ เจ) เพิ่มสิ่งนี้ในสนาม คุณพ่อของเมสซี่ เจ นั้นต้องการที่จะให้ลูกชายนั้นเพิ่มบางสิ่งลงในสนาม คุณพ่อนั้นได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อจุ้ง ก้องภพ นั้นต้องการที่จะให้ลูกชายนั้นเพิ่มเข้าในการที่เราลงเล่นนั่นเอง  

        คุณพ่อนั้นอยากที่จะให้ลูกของตัวเองเล่นฟุตบอลเพราะว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับว่าคุณพ่อนั้นมีความชอบเกี่ยวกับฟุตบอลแต่ว่าอยากที่จะให้ลูกนั้นได้เล่นแทนพ่อนั่นเอง  แต่ว่าเป็นเรื่องราวที่ครอบครัวนี้นั้นมีมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง

แต่ว่าในตอนนี้เมสซี่ เจ นั้นได้ออกไปค้าแข่งกับสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร นั่นเองเพราะว่าคุณพ่อนั้นได้เห็นลูกชายในการที่ได้ลงเล่นในสนามนั้นเป็นเรื่องที่เรานั้นก็ภูมิใจเป็นอย่างมากแล้วและเมื่อเมสซี่ เจ นั้นยังเป็นคนที่ช่วยทีมนั้นเป็นคนที่ทำประตูและก็ชนะได้นั้นเป็นเรื่องที่เราก็ยิ่งดีใจเข้าอีก 

แต่ว่าในเรื่องของการที่เราลงเล่นมันคือฟุตบอลอาชีพ เพราะว่าในเรื่องของฟุตบอลอาชีพนั้นเราก็ต้องมีการทาเรามีการทำประตูบ้างเพราะว่าพ่อนั้นได้เห็นแล้วว่าเมสซี่ เจ นั้น มีโอกาสที่สามารถที่จะทำประตูนั้นได้หลายลูกมากแต่ว่ากลับทำไม่ได้นั่นเอง  และในเรื่องของส่วนตัวของลูกชายนั้นเป็นเรื่องที่พ่อนั้นรู้ดีอย่างหนึ่ง  คือว่าเจนั้นเป็นคนที่เล่นเพื่อทีม

  เพราะว่าในการที่จะทำประตูได้หรือไม่ได้นั้นเจเป็นคนที่ไม่สนใจ เพราะว่าใครสามารถที่จะทำประตูได้นั้นเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าเจต้องการแค่ว่าเอาทีมชนะเป็นเรื่องที่ดีพอแล้ว

  ซึ่งในวันนี้คุณพ่อนั้นยังได้บอกกล่าวไปอีกว่าในการที่เราเล่นฟุตบอลอาชีพนั้นเรานั้นต้องมีการที่จะทำประตูได้นั้นเอง  เมื่อเรานั้นสามารถที่จะทำประตูได้นั้นเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเราเพราะว่าเรานั้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพ  

       ในเรื่องนี้นั้นคุณพ่อจุ้ง  ได้กล่วเอาไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เมสซี่ เจ นั้นสามารถที่จะ ทำประตู้ได้นั้นของให้ทำเพราะว่าในเรื่องที่การทำประตูนั้นพ่อเห็นว่าเมสซี่เจนั้นสามารถที่จะได้ เพราะว่ามีโอกาสในเรื่องของการยิงประตูนั้นบ่อยมากนั่นเอง ในบางจังหวะนั้นเมื่อเรานั้นสามารถที่จะเห็นได้ว่าเราสามารถที่จะทำได้นั้นขอให้ทำเพื่อตัวเองบ้างเพื่อที่ว่าเรานั้น

จะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพนั่นเอง เพราะว่าการที่เราเป็นนักฟุตบอลอาชีพนั้นเป็นที่เรารู้กันว่าเรานั้นต้องขยันในการที่จะทำประตูนั่นเอง เพื่อที่ในอนาคต   สำหรับพ่อจุ้ง หรือว่า ก้องภพ สรงกระสินธ์ ผู้ที่ปลุกปั้นลูกชายของเขานั้นมาตั้งแต่เล็กนั่นเองและมาในตอนนี้จนประสบความสำเร็จได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  ufabet

โควิด19 ส่งผลต่อวงการฟุตบอลอย่างไร

โควิด19 ส่งผลต่อวงการฟุตบอลอย่างไร หลังจากการแข่งขันฟุตบอลลีกของแต่ละประเทศเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายที่กำลังจะตัดสินแล้วว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แต่แล้ววงการฟุตบอลก็เจอปัญหาครั้งใหญ่ เหมือนกับที่คนทั้งโลกเจอ เมื่อเชื้อไวรัสโควิดระบาดหนักไปทั่วโลก ทำให้วงกีฬาทุกประเภทต้องหยุดทำการแข่งขัน ซึ่งผู้จัดการแข่งขันลีกระดับโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ ประเทศอิตาลี และประเทศสเปน ร่วมไปถึงทั่วโลกต้องการทำการประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อหาข้อสรุปและความลงตัวสำหรับฤดูกาล 2019-2020

  ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งผู้สื่อข่าวต่างประเทศทั่วโลกได้มีการคาดกันว่า อาจจะต้องแข่งกันกันต่อท่ามกลางสนามที่ว่างเปล่า และไร้คนดูในสนาม หรืออีกทางอาจจะเป็นการเลื่อนการแข่งขันกันไปแบบไม่มีกำหนด และสุดท้ายอาจเป็นการยกเลิกการแข่งขันไปเลย เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทำให้วงการฟุตบอลทั่วโลกนั้นสูญเสียรายได้ของสโมสร ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการถ่ายทอดสด หรือรายได้จากการแข่งขัน และรายได้จากผู้ชมในสนาม รวมถึงค่ารายได้จากสปอนเซอร์ต่าง ๆ อีกนับไม่ถ้วน โดยปัจจุบันนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดไข้ไวรัส แม้ประเทศต้นกำเนิดอย่างประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศแรกจะสามารถทำการควบคุมการแพร่ระบาดไว้ได้แล้วนั้น

แต่กับที่ยุโรปมันไมใช่อย่างนั้น เพราะที่ยุโรปการแพร่ระบาดยังคงลุกลามและทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ และกำลังกายเป็นแหล่งแพร่เชื้อขนาดใหญ่ ทำให้หลายๆประเทศได้มีการออกมาตรการงดกิจกรรมต่างๆ ที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมาตรการเหล่านี้ก็ส่งผลมายังกีฬาทุกประเภท

และวงการฟุตบอลที่ปรกติจะมีการแข่งขันกันเกือบทุกวันของลีกทั่วโลกอยู่แล้ว และยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อทุกอย่างดำเนินมาไกลที่ใกล้จะจบฤดูกาลของการแข่งขันเกือบทุกประเทศ และเกือบจะตัดสินว่าทีมใดจะได้แชมป์ หรือทีมใดจะได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป ทีมใดจะตกชั้น และทีมใดจะเลื่อนชั้นขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไข้ไวรัสโควิด19 นั้น ก็ได้มีการแพร่ระบาดไปสู่คนในวงการฟุตบอล

จึงทำให้ทางรัฐบาลแต่ละประเทศต้องมีการออกมาร่วมมือกับผู้จัดการแข่งขันทั่วโลก เพราะการแข่งขันฟุตบอลเพียงหนึ่งนัด คือการรวมตัวคนอย่างมากมาย และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอย่างมาก นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้การแข่งขันฟุตบอลแต่ละประเทศในเวลานี้ได้ถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด ซึ่งแม้แต่ตอนนี้เองทางฝ่ายจัดการแข่งขันก็ยังไม่สามารถสรุปความชัดเจนออกมาได้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปในอนาคต เพราะสิ่งเหล่านี้คือรายได้มหาศาลของแต่ละสโมสรเลย

 

ขอบคุณให้การสนับสนุนโดย  เล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรี

นักเตะเป็นใหญ่ที่บาร์เซโลน่าไม่ใช่ manager

นักเตะเป็นใหญ่ที่บาร์เซโลน่าไม่ใช่ manager ผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่า กีเก้ เซเตียนกล่าวว่า “ผมไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าจะได้มาคุมทีมใหญ่อย่างบาร์เซโลน่า” เขากล่าวหลังจากที่สโมสรได้ว่าจ้างเขาขึ้นมาเป็นกุนซือคุมทีมยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลัน โดยเขามาแทนที่ของเออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ “ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าบาร์ซ่าจะเลือกผม”

อดีตกุนซือ รีล เบติสวัย 61 ปีชื่นชมโยฮัน ครัฟฟ์ที่เป็นโค้ชซึ่งพาความสำเร็จสู่ที่เลือดหมู-น้ำเงิน ก่อนหน้านี้เขายังว่างงานอยู่เลย 

โดยชาบี้ที่เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ของอทีม ปัจจุบันเรียนรู้งานโค้ชฟุตบอลที่อัล ซาดด์ กาตาร์ ซึ่งการมาทำงานโค้ชเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาบี้ แต่ว่าไม่มีที่ไหนยิ่งใหญ่เท่าที่คัมป์นูอีกแล้ว

โดยเมื่อปี 2002 บาร์ซ่าได้เลือก หลุยส์ ฟาน-กัลมาคุมทีมเมื่อปี 2002 โดยเขาได้กลับมาทำงานที่สโมสร อีกครั้งหลังจากที่ทีมล้มเหลว โดยกุนซือชาวดัตช์ได้วางรากฐานของฟุตบอลที่บาร์ซ่าและวิธีการเล่นที่ยอดเยี่ยม

การเล่นของทีมมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง คือการผ่านบอลที่รวดเร็ว,การบุก,การเพรสซิ่ง ที่กุนซือโยฮัน ครัฟฟ์ได้พร่ำสอนไว้เมื่อ 1988-1996 ภายใต้ประธานคนใหม่เมื่อปี 2003 โจน ลาปอร์ต้าได้สอบถามว่า ครัฟฟ์อยากจะกลับมาคุมทีมอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งครัฟฟ์ได้แนะนำ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ดกุนซือรุ่นใหม่ไฟแรงในเวลานั้นที่คุมทีม สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัมอยู่ ให้มาคุมบาร์ซ่าและไรจ์การ์ดพาทีมจากสเปนคว้าแชมป์ ucl เมื่อปี 2006 

เมื่อไรจ์การ์ดออกจากทีมปี 2008 บาร์ซ่าได้สัมภาษณ์โชเซ่ มูรินโญ่แต่ก็พบว่าเขาเป็นกุนซือที่มีปรัชญาเกมรับที่ตรงข้ามกับแนวคิดของครัฟฟ์ ทำให้ทีมได้แต่งตั้งกุนซือโนเนมที่เป็นลูกหม้อของสโมสร อย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่ามาคุมทีม เขาเลื่อนชั้นมาจากการคุมทีมบาร์เซโลน่า บี

จากนั้นเป๊ปพาทีมคว้าสำเร็จมากมายก่อนจะลาออกไปเมื่อปี 2012 ต่อมาเป็นติโต้ บิลาโนบา ผู้ช่วยของเขาขึ้นมาเป็นกุนซือ ต่อมาก็เป็นตาต้า มาร์ติโน่,หลุยส์ เอ็นริเก้ ,บัลเบร์เด้ และสุดท้ายเป็นเซเตียน

ที่ผ่านมา บาร์ซ่าว่าจ้างโค้ชโนเนมมาตลอด เหมือนกับว่าใครที่มีแนวทางเปิดเกมบุกและเข้าได้กับลิโอเนล เมสซี่จะถูกเรียกเข้ามาคุมทีม

เมสซี่เป็นเหมือน icon ของทีม และผู้จัดการทีมทุกคนที่เข้ามาต้องจัดทีมเพื่อซัพพอร์ตเขา หากว่าเทรนเนอร์คนไหนไม่ค่อยจัดวางตัวนักเตะชาวอาร์เจนตินาลงสนาม อนาคตของตัวกุนซือเองก็อยู่ไม่ยืด แต่ว่าความยอดเยี่ยมของเมสซี่ทำให้เขาจะเป็นเหมือนเทพเจ้าของชาว อาซูลกราน่าไปตลอดกาล

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนฝากขั้นต่ำ 20 บาท

มูรินโญ่เชียร์ดายเออร์ไม่ควรถูกตำหนิ

มูรินโญ่เชียร์ดายเออร์ไม่ควรถูกตำหนิ โชเซ่ มูรินโญ่ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสกล่าวถึงลูกทีมเอริค ดายเออร์ว่าจะได้ลงสนามเกมที่พบเบิร์นลี่ย์วันเสาร์นี้ เพราะว่าแฟนบอลสเปอร์สส่วนมากมองว่าเขาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

กุนซือไก่เดือยทองเชื่อว่า นักเตะของเขาไม่จำเป็นต้องมีความหวั่นกลัวหรือต้องละอายใดๆ หลังจากที่วิ่งขึ้นไปบนอัฒจันทร์ และจะไปมีเรื่องกับแฟนบอลที่ด่าทอครอบครัวของเขา เกมนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์หลังจากที่สเปอร์สเล่นในบ้านแต่แพ้ต่อนอริช ในการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ตกรอบ 16 ทีมในรายการเอฟเอคัพ อย่างน่าเสียดาย

ดายเออร์อารมณ์เดือดวิ่งขึ้นไปบนสแตนด์เพื่อต่อว่าแฟนบอลที่ดุด่าน้องชายของเขา ซึ่งสมาคมฟุตบอลยังลังเลว่าจะลงโทษเอริค หรือไม่ เพราะว่ามันเป็นการกระทำที่เริ่มจากแฟนบอล

มูรินโญ่กล่าวว่า เอริคทำอะไรผิดหรือ แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่แต่ว่าเขาเป็นนักฟุตบอล เขาเป็นคนเขาก็อาจจะเข้าไปปกป้องน้องชายแท้ๆ เกมที่ผ่านมาสองเกมเอริคเล่นได้ดี

ผมคงไม่ดร็อปเขาออกในเกมสุดสัปดาห์นี้หรอก ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่ เรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดก็จริงแต่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องกลัว ไม่น่าตำหนิ ผมเชื่อว่าแฟนบอลทุกคนพร้อมสนับสนุนเขาแน่นอน ซึ่งหากว่าตัดสินจากฟอร์มการเล่น เอริค ดายเออร์จะได้ลงสนามเกมเยือนเบิร์นลี่ย์วันอาทิตย์นี้

การตัดสินใจไปมีเรื่องกับแฟนบอลอาจทำให้เขาถูกลงโทษจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ที่ไม่ต้องการให้นักเตะมีเรื่องกับแฟนบอล แต่ว่าสองเกมล่าสุดที่ผ่านมาทั้งเกมที่แพ้วูลฟ์ 2-3 และเกมที่แพ้นอริชจากการดวลลูกโทษ เอริคได้รับบทเซนเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น ในตำแหน่งปราการหลังสามตัวและหลังสี่ตัวตามลำดับ

ดายเออร์จะเจอบททดสอบเล็กน้อยในซีซั่นนี้ ก่อนหน้านั้นเขาได้สตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 4 เกมในยุคของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มูรินโญ่กล่าวต่อว่าผมมองว่าเขาดูท่าทางเศร้าๆ และเล่นโดยขาดความมั่นใจ เราจะช่วยเรียกความมั่นใจเขากลับมา

ก่อนหน้านี้ดายเออร์ถนัดเล่นกับบทมิดฟิลด์ตัวรับมากกว่า แต่ผมก็พยายามจับเขาไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และผมมองว่าเขาเล่นได้ดีทีเดียว

และกุนซือฝีปากกล้าหวังว่า อูโก้ ยอริสจะพร้อมลงสนามเฝ้าเสาหลังเจ็บแข้งและเป็นปัญหาที่เรื้อรัง ซึ่งมูรินโญ่ยอมรับว่าซีซั่นหน้ายอริสอาจจะไม่ได้เป็นโกลมือหนึ่งของทีมแล้ว พร้อมกันนี้นักเตะตัวหลักของทีมยังบาดเจ็บกว่าสามรายคือ คือมุสซ่า ซิสโซโก้,แฮร์รี่ เคนและซน เฮือง มิน

 

4 ทีมที่มีโอกาสเซ็น เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย ซัมเมอร์นี้

4 ทีมที่มีโอกาสเซ็น เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย ซัมเมอร์นี้

4 ทีมที่มีโอกาสเซ็น เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย ซัมเมอร์นี้ แม้ว่า นอริช ซิตี้ จะรั้งบ๊วยของพรีเมียร์ลีก แต่แฟนบอลของพวกเขาก็มีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมายในปีนี้ ชัยชนะของพวกเขาเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 เป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัด แต่ตลอดทั้งซีซั่นแฟนบอลคงภูมิใจกับแผนการเล่นของทีมที่เน้นเกมรุกแม้ว่าจะเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นก็ตาม


กุญแจสำคัญในการเล่นสไตล์ของพวกเขาคือเหล่ากองกลางในทีมอย่าง ท็อดด์ แคนท์เวลล์ และ เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย โดยเฉพาะรายหลังที่มีผลกระทบในเชิงบวกอย่างมากกับทัพนกขมิ้น จนมีหลายทีมที่ต่างเฝ้าดูสถานการณ์ของเขาแบบใกล้ชิด 

 

  1. เลสเตอร์ ซิตี้

    เลสเตอร์ มีโอกาสสูงที่จะได้ไปเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า พวกเขาจะต้องเพิ่มอาวุธเข้ามาในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อรับมือกับความโหดของฟุตบอลยุโรป คะแนนที่ดร็อปลงในช่วงคริสต์มาสแสดงให้เห็นว่าขุมกำลังในเชิงลึกของพวกเขาไม่ดีนักกับพยายามต่อสู้กับโปรแกรมหฤโหดของพรีเมียร์ลีกซึ่งมันจะเกิดขึ้นทุกสัปดาห์กับฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก


เจมส์ แมดดิสัน อาจต้องการใครสักคนที่แชร์ความคิดสร้างสรรค์ในแดนกลาง และเชื่อว่า บูเอนเดีย เป็นอ็อพชั่นที่น่าสนใจทีเดียว

 

  1. ลิเวอร์พูล


เยอร์เก้น คล็อปป์ มักจะคัดเลือกผู้เล่นที่มีอนาคตในทีมที่ไม่ดังนักของพรีเมียร์ลีก และทำให้พวกเขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเช่น ซาดิโอ มาเน่, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และอีกมากมาย

 

อดัม ลัลลาน่า และ เซอร์ดาน ชากิรี่ มีโอกาสสูงที่จะย้ายออกจากแอนฟิลด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งมันเป็นการทิ้งช่องว่างให้กับ บูเอนเดีย ที่สามารถเข้ามาเติมได้ 

 

  1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ยูไนเต็ด วางเป้าไปที่ แจ็ค กรีลิช และ เจมส์ แมดดิสัน แต่ถ้าหากอดไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาก็อาจพลาดเป้าหมายทั้งสองได้เช่นกัน บูเอนเดีย เล่นในตำแหน่งที่คล้ายกัน และเป็นอ็อพชั่นที่ถูกกว่า แม้ว่าเขาไม่ใช่เป็นนักเตะชาวบริติชตามนโยบายของปีศาจแดง แต่เชื่อว่าเขาจะสามารถแก้ปัญหาในแดนกลางไม่ต่างจากสองรายดังกล่าว รวมทั้งมีแววที่จะพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ


  1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

คาดว่า ฟิล โฟเด้น จะก้าวเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของ ดาบิด ซิลบา เมื่อมิดฟิลด์ชาวสเปนย้ายออกจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม ในซัมเมอร์นี้ มันคงเป็นคำถามว่าเขาจะพร้อมหรือยังเนื่องจากรับบทบาทเป็นตัวสำรองตลอดซีซั่นนี้ การได้ บูเอนเดีย เข้ามาอาจเป็นการตอบโจทย์สำหรับปัญหาดังกล่าวได้ เนื่องจากเขาคือคีย์แมนสำหรับทีมในพรีเมียร์ลีกอย่าง นอริช ซิตี้

 

 

แอบมานานหลังจากเสร็จภารกิจ  มินามิโนะ ของ ลิเวอร์พูล

แอบมานานหลังจากเสร็จภารกิจ  มินามิโนะ ของ ลิเวอร์พูล เร้ดบูลล์  ซัลซ์บวร์ก สโมสรแกร่งของประเทศออสเตรีย ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนที่อยากรู้จับตามอง

 

แอบมานานหลังจากเสร็จภารกิจ  มินามิโนะ ของ ลิเวอร์พูล กองหน้าดาวรุ่งเพียงคนเดียวที่เป็นชาวนอร์เวย์ซึ่งไม่แปลกอะไรที่  เออร์ลิง เบราต์ฮาแลนด์ที่เป้นกองหน้าดาวรุ่งอายุเพียงแค่19 ปีนั้นได้ทำผลงานที่ดีเยี่ยมสามารถทำประตูไป 28 ประตู กับอีก  7 แอสซสต์ หลังจากที่ลงเล่นไป 22นัด

ในเวลาที่มากี่โมงนั้น ดาวรุ่งก็มาที่  มินามิโนะบ้างแล้ว หลังจากที่ลิเวอร์พูลกำลังที่จะเจรจาและต่อรองเพื่อขอเขามาอยู่ในทีมในตลาดซื้อขาย ที่มีนักเตะ รอบสองในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึง  และซึ่งว่าเขามีค่าฉีกสัญญาเพียงราว 7.5 ล่านปอนด์ หรือประมาณ 285 ล้านบาท

  ได้มีนักข่าวชื่อดังของอังกฤษได้รายงานว่า  ลิเวอรืพูลนั้นเขาได้แอบมองนักเตะของซามูลไรรายนี้ตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่คล็อปป์  ทีจะเข้ามาเป็นนายใหญ่ในถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยซ้ำ เรื่องของเรื่องคือ ไมเคิ้ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนายการกีฬาของลิเวอร์พูลและด้วยทีมงานที่เฝ้าดูการทำงานของ มินามิโนะ ตั้งแต่  2013 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยังอยู่ในทีมบ้านเกิด ถึงแม้ว่าเขาจะไปค้าแข่งทีมต่างๆแต่ทางเอ็ดเวิร์ดส์นั้นก็ยังติดตามผลงานอยู่ตลอด 

 

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นเอ็ดเวิร์ดส์นั้นเฝ้าติดตามผลงานของมินามิโนะอย่างต่อเนื่องจนเมื่อสองปีก่อนหน้านี้นั้นเขาเฝ้าดูการพัฒนาฝีมือและการเล่น และบวกกับว่าเขานั้นโตเต็มที่และมีความบึกบึ้นและอึดขึ้น  อย่างบอกตั้งแต่ตอนต้นว่า มินามิโนะ มีค่าฉีกสัญญาที่ถูกมาก เพียงแค่ 7.5 ล้านปอนด์ แล้วนั้นก็ยังไม่มีทีมไหนเลยที่รู้เงื่อนไขอยู่ในสัญญานี้ด้วย 

 

แต่ถ้าถามกันว่าทำไมลิเวอร์พูลนั้นถึงรู้เรื่องนี้  เพราะว่าเอ็ดเวิร์ดส์ นั้นเขาได้สร้างความสัมพันธ์กับเหล่าผู้บริหารฝ่ายฟุตบอลเร้ดบูลล์นั้นเหมือนกับการที่เพื่อนสนิดนั้นพูดคุยกันเรื่องลับๆที่ให้รู้เพราะคนสนิทกันเท่าที่รู้ เท่านั้น

 

และนอกจากนี้ คล็อปป์ คิดเห็นตรงกันว่า  มินามิโนะคือคนที่เข้ามาช่วยลิเวอร์พูล เพราะว่าที่จริงนั้นเขานั้นก็ชื่นชอบเจ้าตัวย้ายไปเล่นกับ  ซัลซ์บวร์กแล้ว และ คล็อปป์ก็ยังนับถือซัลซ์บวร์ก ที่คอยเป็นแมวมองที่หานักเตะดาวรุ่งฝีเท้าจนยอมเยี่ยมจนพัฒนาแข้งเป็นนักเตะชั้นนำอย่างเช่น  เกอิต้า และซาดิโอมาเน่   

ปัจจุบันที่มีโอกาส  มินามิโนะจะได้มาเป็นสมาชิคนใหม่ของลิเวอร์พูลแต่ถ้าเขานั้นได้โชว์ลีลาอันโดดเด่นและต้องชมทีมงานของ หงส์แดง

 

สนับสนุนเรื่องราวทั้งหมดนี้โดย บาคาร่าขั้นต่ำ 10 บาท

เนวิน ชิดชอบเปิดใจบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมลุยทุกศึกใหญ่ปี2020

เนวิน ชิดชอบเปิดใจบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมลุยทุกศึกใหญ่ปี2020 บิ๊กเน  ประทานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะพาทีมคืนสู่แชมป์ในทุกรายการขงปี2020 หลังจากที่ทำให้ผิดหวังจากปีที่แล้วที่ทำให้ไม่มีแชมป์ติดมือ

โดยนายใหญ่ของทีมปราสาทสายฟ้า  ที่ได้พูดกล่าวว่า เมื่อปี2019

นั้นเป็นการแข่งขันที่ไม่ดีแย่มากสำหรับ บุรีรัมย์2020ซึ่งเป้าหมายก็ยังเหมือนเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายไว้คือว่าเรานั้นต้องการแชมป์ให้เหมือนเดิมถึงแม้ว่าตอนนี้ทุกทีนั้นมีการที่พัฒนาฝีมือขึ้นและก้าวหน้าและหน้าที่ของพวกเรานั้นคือต้องการเอาแชมป์คืนมา  และพัฒนาเด็กอคาเดมี่ให้ก้าวหน้าและเป็นกำลังที่สำคัญของวงการฟุตบอลไทยให้เพิ่มมากขึ้น

เพิ่งจะเริ่มปรีซีซั่นที่ 3 วันแต่ผมรู้ว่าคำถามต่อไปคืออะไร  เป้าหมายจะเปลี่ยนไหม แล้วผู้เล่นเป็นใคร

ซึ่งเรานั้นตอบได้เพียงอย่างเดียวคือ เราได้บรรลุสัญญา กับแบร์นาร์โด้ คูเอสต้า  ของกองหน้าชาวอาร์เจนติน่าซึ่งเป็นเจ้าของดาวซันโวของลีกเปรูซึ่งวันนี้มาซ้อมกับทีมแล้ว 

ซึ่งอีกคนริคาร์โด้  บูเอโน่

ซึ่งเป็นศูนย์หน้าของชาวบราซิลมาซ้อมกับทีมแล้ว และนอกจากนี้เรายังได้ จองแจยอง กองกลางตัวรับชาวเกาหลีใต้จากโปฮัง สตีลเลอร์ส  ซึ่งมาเพิ่มในโคต้าเอเชียโดยส่วนตัวนั้นก็ยังเชื่อว่าเหล่ากำลังใหม่ในครั้งนี้จะต้องดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ถ้าถามว่าวันนี้ลงตัวกันหรือยังแต่ว่าตอนนี้มาหมดแล้วขึ้นอยู่กับการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคต่าง และ เพลย์ออฟนัดแรก อาจจะดูไม่หนักหนาแต่เรื่องจิตใจและความคาดหวังจากแฟนบอลไทยระหว่างไทยกับเวียดนามนั้นสาหัด ซึ่งถึงเวลาที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นจะเอาคืออย่าสมให้กับทีมชาติไทยทั้งหมดในเดือนมกราคมนี้ 

ส่วนเซียงไฮ้ ในรอบต่อไปนั้นเราต้องมาดูกันเพราะว่าฟุตบอลลูกกลมนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน

ซึ่เรานั้นก็หวังที่จะชนะอยู่แล้ว  ซึ่งควมผิดผลาดนั้นไม่ใช่ความผิดของกุนซือเพียงอย่างเดียวถึงแม้ว่าเรานั้นจะเสียแชมป์ด้วยเฮดทูเฮดแต่ว่าแต้มเท่ากันในสภาพทีมซึ่งเรานั้นต้องรับว่าปีที่ผ่านมานั้นเราเสียความสมดุล อย่างมากเพราะว่าเรานั้นต้องแบกผู้เล่นแต่งชาติ

ถ้าทีมอื่นนั้นกองหน้าจะเสียสมดุลแบบนี้แต่ผู้เล่นโควต้าเอเชีย

ก้คงไม่แตกต่างจากนักเตะไทยที่ต้องประคองทีมจนจบซึ่งแหน้าแฟนบอลบุรีรัมย์จะเห็นในรูปแบบใหม่ซึ่งผมคิดว่าจะต้องแกร่งกว่าเดิมด้วยตัวของผู้เล่นจาก อาร์เจนติน่า  บราซิล และเกาหลีใต้ เอาว่าเจอกันหมดทุกทีม โดยส่วนตัวนั้นผมว่าบอลไทยนั้นสนุกแต่จะมาในรูปแบบไหนไม่รู้ในปีหน้าแต่เราก็ไม่รู้จะได้แชมป์กี่แชมป์แต่เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกกับบุรีรัมย์

ซึ่งผมนั้นได้คุยกับนายกสมาคมฟุตบอลได้คุยเรื่องยู 23 ถ้าไม่ผ่านรอบแรกนั้นไม่ใช่ปัญหาของบุรีรัมย์แต่ถ้าผ่านรอบแรกนั้นก็เป็นปัญหาของบุรีรัมย์ยอมให้ทีมชาติไทยซึ่งผมนั้นภาวนาให้ผ่านเข้ารอบในการแบ่งกลุ่มได้ซึ่งผมนั้นยืนยังว่าทีมชาติไทยนั้นต้องมาก่อนสโมสรเสมอ  

 

ขอบคุณสำหรับบทความ แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ

 

ข่าวกีฬาที่น่าสนใจ

ข่าวกีฬาที่น่าสนใจ เจอร์เก้น คล๊อปป์ คุมไมนซ์ 05 จนถึงในปี 06/07 ทีมก็ยืนระยะในลีกสูงสุด

ข่าวกีฬาที่น่าสนใจ อย่าง บุนเดสลีก้า เยอรมัน ไม่ไหว ตกชั้นไปเล่นให้กับบุนเดสลีก้า 2 จบฤดูกาลด้วยอัน 16 ทำผลงานได้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตามคล๊อปป์คุมทีมต่อมาอีก 1 ฤดูกาลและอำลาไมนซ์ 05 ที่เหมือนเป็นทีมบ้านเกิดของเขาในปี 2008

ผลงานและสไตล์การคุมทีมของเจอร์เก้น คล๊อปป์มีเสน่ห์เตะตาเสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จึงได้ไปคุมบังเหียนในปี 2008 ในช่วง 2-3 ปีแรกที่คุม ทุกอย่างัยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าใดนักจึงยังไม่ได้ทำผลงานเปรี้ยงปร้างเท่าทีควร

จนกระทั่งไปฤดูกาล 10/11 แฟนๆ ดอร์ทมุนด์ก็ได้เฮ เมื่อเสือเหลือง ได้ครองแชมป์บุนเดสลีก้า เยอรมัน ทำคะแนนทิ้งที่สองอย่างเลเวอร์คูเซ่น 7 แต้ม และที่สามอย่างบาเยิร์น มิวนิค 10 แต้ม ซึ่งในฤดูกาลนั้นมีตัวทำเกมตัวเก่งอย่าง 

ในฤดูกาล 11/12 คล๊อปป์ นำทีมดอร์ทมุนด์ ป้องกันแชมป์ลีกได้

ด้วยการเอาชนะที่สองอย่างบาเยิร์น มิวนิค ทิ้งห่าง 8 แต้ม แถมยังเอาชนะอีกครั้งในรอบชิงของบอล เดเอฟเบ โพคาล ที่ซัดกันนัวเละเทะ 5-2 ย้ำแค้นซ้ำ ทำให้จบฤดูกาลนั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์จบฤดูกาลด้วยการทำดับเบิ้ลแชมป์ไปนอนกอดสบายใจ แต่อีก 2 ฤดูกาลถัดมาคล๊อปป์ทำได้แค่จบฤดูกาลที่อันดับ 2 เท่านั้น ปล่อยบาเยิร์น มิวนิคแซงหน้าได้แชมป์สองฤดูกาลติด

ส่วนหนึ่งก็มาจากการเสียกำลังหลักอย่างชินจิ คากาวะไปให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และที่เจ็บปวดที่สุดคือการสูญเสียมาริโอ เกิตเซ่ เด็กปั้นลูกหม้อที่โตมาจากชุดเยาวชนดอร์ทมุนต์ ไปให้กับทีมคู่แค้นแย่งแชมป์อย่างบาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 13/14 ด้วยค่าตัวสูงถึง 37 ล้านปอนด์ ในฤดูกาล 13/14 ถึงดอร์ทมุนด์จะชวดได้แชมป์ลีก

แต่ดาวยิงอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ยังคงฟอร์มได้ดุดันเช่นเดิม ซัดไปทั้งหมด 20 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโวของลีกแซงหน้า มาริโอ แมนด์เซอร์กิจของบาเยิร์น มิวนิคที่ทำได้ 18 ประตู หลังจากนั้นในฤดูกาลถัดมา เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ก็จัดการเซ็นสัญญาขโมยเลวานดอฟสกี้มาอยู่กะบาเยิร์นฯ ซะเองเลย ทำให้ดอร์ทมุนด์ปีนั้นอันดับร่วงลงไปอยู่ถึงอันดับ 7 เกือบไม่ได้ไปเตะแม้กระทั่งยูโรป้าลีก กันเลยทีเดียว

ช่าวกีฬาที่น่าสนใจ

ช่าวกีฬาที่น่าสนใจ เจอร์เก้น คล๊อปป์ ย้ายมาหากินที่ดินแดนผู้ดีอังกฤษกับหงส์แดงลิเวอร์พูลในฤดูกาล 16/17 คุมแทน แบรนเดอร์ รอดเจอร์ ที่โดนเด้งไปหลังจากพาลิเวอร์พูลจบฤดูกาล 15/16 แค่เพียงอันดับ 8 อัดไปแม้กระทั่งยูโรป้า ลีก

ช่าวกีฬาที่น่าสนใจ ในฤดูกาลแรกที่คล๊อปป์มาคุมลิเวอร์พูล ผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตาทันที

เมื่อจบฤดูกาล 16/17 ได้อันดับ 4 และบอล EFL Cup ก็พาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศพลาดท่าพ่ายเซาแทมป์ตันอดเข้าชิงอย่างน่าเสียดาย นัดแรกที่คล๊อปป์จับงานคุมลิเวอร์พูลคือนัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนถิ่น ไวท์ฮาร์ตเลน ของ ไก่เดือยทอง ท๊อตแนม ฮอตสเปอร์ แต่ทำได้เพียงสกอร์ เสมอ 0-0 เท่านั้น

ในฤดูกาลถัดมา (17/18) ลิเวอร์พูล จบที่อันที่ 4 ยังคงรักษาฟอร์มไว้ได้ พร้อมกับการมาใหม่ของดาวยิงอย่างโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ย้ายมาจากโรม่า ที่ในฤดูกาลนี้ซัดไปได้ถึง 32 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโวเมื่อจบฤดูกาลทันทีที่มาถึง

 

ฤดูกาล 18/19 หรือปีที่ผ่านมานี้เองเป็นฤดูกาลที่ดราม่ามากที่สุด

แทคติคเพรสซิ่งสูงของคล๊อปป์ในที่สุดก็ได้ผล เกือบถึงฝั่งฝัน ในเกมลีกกวาดชัยชนะเป็นว่าเล่นกวาดแต้มไปมากถึง 97 คะแนน แต่ก็อย่างว่าดราม่า ดีแล้วแต่ยังไม่ดีที่สุด ไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ พ่ายแพ้แต่แชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ทำได้ 98 แต้ม ห่างกันเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นแล้วจะเป็นปีที่สดใสได้ดัมเบิ้ลแชมป์ไปครอง

เพราะในส่วนรายการ UEFA Champion League ลิเวอร์พูลก็ตบคู่ปรับร่วมลีกอย่าง ท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ลงได้ 0-2 ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์รายการยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกไปครอง ในฤดูกาล 18/19 นี้ ดาวซัลโวยังคงเป็น โมโม่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์เจ้าเก่าเจ้าเดิม ซัดไปถึง 22 ประตู เท่ากันกับ ซาดิโอ มาเน่ ปีกซ้ายจากลิเวอร์พูลเช่นกัน และกองหน้าอย่าง โอบาเมยอง ของอาร์เซนอล ที่ทำได้ 22 ประตูเช่นกัน

คล็อพนำพาลิเวอร์พูลชนะครั้งแรก ในรายการลีกคัพ

เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะ บอร์นมัท ไปได้ 1-0 ที่สนามแอนฟีลด์ และได้รับชัยชนะอีกครั้งในครั้งต่อมา ในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 11 เมื่อลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายบุกไปเยือน เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ 1-3 โดยเป็นฝ่ายถูกยิงนำไปก่อน 1-0 ทำให้ลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซีได้ที่สนามแห่งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 นัด อีกทั้งทำให้ตำแหน่งผู้จัดการทีมเชลซีของ โชเซ มูรีนโย อยู่ในภาวะวิกฤตอีกด้วย เนื่องจากคุมทีมแพ้เป็นนัดที่ 6 ของฤดูกาลแล้ว 

และแพ้ครั้งแรกในฤดูกาลนัดที่ 12 เมื่อลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายแพ้ต่อ คริสตัลพาเลซ ที่สนามแอนฟีลด์ 1-2 นับเป็นการคุมทีมนัดที่ 7